การเรียนแบบ Active Play Active Learning เรียนเพื่อรู้

ในปัจจุบันกระบวนการศึกษาในสังคมโลกได้เปลี่ยนไป จากรูปแบบการเรียนรู้ ตามขั้นตอนแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็ก เตรียมอนุบาล จนพัฒนาการจากเด็กปฐมวัย สู่เด็กโต หรือวัยรุ่น ได้มีการนำพื้นฐานที่เข้าถึงความเป็นมนุษย์ มาปรับใช้ แทนที่จะขีดกรอบ วางแนวทางให้เด็กๆต้องก้าวเดิน เพื่อเป้าหมายความสำเร็จในชีวิต หน้าที่การงาน จึงได้หยิบยกวิธีการให้เด็กๆได้โลดแล่นตามใจปรารถนา อยู่กับธรรมชาติของชีวิตที่ทุกคนควรมีความสนุกสนาน ความตื่นเต้น มีความสนใจ แสดงออกมาผ่านท่าทางบุคลิกภาพ

ซึ่งในอดีตผู้ปกครอง มักจะห้ามลูกหลาน เด็กๆที่ซุกซน ให้อยู่นิ่ง มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย เคารพ เชื่อฟัง ผู้ใหญ่ เล่นเป็นเล่น เรียนต้องตั้งใจเรียน ส่งผลให้ บุคลิกภาพ ความเป็นไปในชีวิตของเด็กๆ แต่ละช่วงวัย ตั้งแต่ในบ้าน จนออกมาสู่ห้องเรียน ต้องทำตามที่ผู้ปกครองหรือ ครูกำหนด โดยมีบทสรุปว่า นั่นคือ คำตอบที่วิเศษที่สุดแล้ว สำหรับเด็กๆ

ดังนั้นแนวทาง บูรณาการด้านการศึกษา สาระ กิจกรรม การเล่นเพื่อเรียนรู้ หรือ Active Play Active Learning ให้ทำความเข้าใจว่า เด็กกับการเล่นเป็นของคู่กัน ต้องให้เด็กๆมีความสนุกในกิจกรรมต่างๆทั้งการใช้ชีวิตและการเรียน เมื่อวิธีคิดถูกปรับเปลี่ยน ทุกวิชา ล้วนมีความสนุก ตื่นเต้น ท้าทาย กระตุ้นความสนใจที่จะรู้ของเด็กๆ แทนที่วิชาคณิตศาสตร์ ต้องนั่งบวกตัวเลข อ่านตำรา เพื่อศึกษา เรียนรู้ ให้เข้าใจ

เรียนเพื่อรู้

รูปแบบการศึกษาแบบใหม่ อาจจำลองหลักการค้าขาย แบบสมมติให้เด็กๆ รู้จักการต่อรอง บวก ลบ คูณ หาร นำการเล่นมาเป็นกิจกรรมประยุกต์ใช้ในวิชา สาระอื่นๆที่เด็กๆจะได้มีโอกาส ทำงานกันเป็นทีม ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นหมู่คณะ มีแนวคิด เป้าประสงค์ ให้เด็กๆ สนุกสนาน จากกิจกรรมการเรียน ที่เหมือนเป็นการเล่นๆ แต่ทลายความคิดแบบเดิมๆกับการศึกษา เรียนรู้ของเด็กๆออกไปอย่างหมดสิ้น

อาจารย์สมควร โพธิทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา Active Play Active Learning ให้ความรู้ได้น่าสนใจว่า เราต้องคำนึงว่า ทำอย่างไร จะให้ธรรมชาติของแต่ละชีวิต เป็นไปอย่างมีความสุข เพราะอารมณ์สุข การสร้างมิตรภาพ เป็นพื้นฐานสำคัญสู่การ ทำงานเป็นทีม การออกมาเล่นของเด็กๆ ก็เหมือนกับการได้ออกกำลังกาย การเล่นกีฬา จะมีกฎ กติกา มารยาท สอนเรื่องพื้นฐานร่างกายที่ดี

ในทางการกีฬาจะเน้นเรื่องสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง ในส่วนจิตวิทยา จะเน้นพื้นฐาน พัฒนาการด้านจิตใจ สู่ใจที่ดี ใจที่งดงาม เมื่อเด็กๆได้รวมกลุ่ม ก็เปรียบเสมือนการรวมทีม การเป็นทีม คือมาตรฐานหนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องกิจกรรมเพื่อมิตรภาพ คนเราต้องรู้จัก ซึ่งจะเป็นการสร้างมิตรภาพเบื้องต้น การเล่น สร้างบุคลิก ยิ้มแย้มแจ่มใส รู้จักกาละเทศะ ความมีน้ำใจ ความจริงใจ 5 องค์ประกอบนี้จะช่วยส่งเสริมการเล่น เวลาแสดงออกทางอารมณ์ เด็กจะรู้ได้ว่า โกรธ แบบนี้ เพื่อนๆอาจไม่ชอบ ถ้าจะให้เกิดมิตรภาพ ต้องปรับอารมณ์ เกิดความฉลาดทางอารมณ์ขึ้นความมีมนุษยสัมพันธ์ จะเข้าไปในการเล่น

ในชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะเพศหรือวัยใด ต้องมีวงจรครบ4 อย่าง เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คือ
1. สนุก
2. ตื่นเต้น
3. ท่าทาง
4. ความน่าสนใจ

เมื่อไหร่ที่คนเราเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ก็จะหมกมุ่น สนุกไม่ได้ ต้องมีแรงบันดาลใจ มีความตื่นเต้น หาความท้าทายในชีวิต เพื่อการก้าวสู่เป้าหมายของชีวิต ที่เรารู้สึกแบบนั้น เพราะเรามีความสนใจ ต้องการความท้าทาย ชีวิตต้องตื่นตัว ทำอย่างไรให้แอคทีฟ เพลย์ แอคทีฟ เลินนิ่ง

เพื่อทำให้มีประสบการณ์ชีวิตที่ดี การบูรณาการร่วมกันทั้งที่บ้าน โรงเรียน และสังคม จะนำไปสู่ระบบ นันทนาการพื้นฐานซึ่งเด็กต้องสนุก แต่สังคมไทยคิดเพียงว่าต้องตั้งใจเรียนอย่างเดียวจึงทำให้เด็กรู้สึกไม่สนุก ถ้าสนุกไว้จะไม่โง่ จริงๆแล้ว แม้จะไม่ฉลาดเหมือนกัน แต่เด็กก็จะมีพื้นฐานที่ครบถ้วน รู้จักคิด มีเหตุผล จากประสบการณ์ในกิจกรรมการเล่น

สังคมไทยจะทำอย่างไร ให้ทุกวิชาการสนุก มีความพึงพอใจ อยากรู้ อยากเรียน แอคทีฟ ไม่ใช่แค่ครูพละ แต่ครูทุกวิชาต้องสนุก เรียนเพื่อรู้ สู่อนาคตที่เด็กๆ สร้างเอง ออกแบบเองได้ นั่นคือ เป้าหมายของการเล่นเพื่อเรียนรู้ หรือ Active Play Active Learning

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ willyit.com

Releated